เพื่อนๆน่าจะเคยได้ยินหรืออ่านผ่านตากันมาบ้างใช่ไหนครับว่า "คนไทยอ่านหนังสือเฉลี่ย ปีละไม่เกิน 8 บรรทัด" ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่รู้ที่ไปที่มาซักเท่าไหร่ ( ไม่ด้วยรู้ว่าใครสำรวจ ) จนกลายเป็นมุกตลก กับ “ความขี้เกียจอ่าน” จนมีวลีฮิตที่คุ้นหูอย่าง “ยาวไปไม่อ่าน” เกิดขึ้นมา
แต่ความเชื่อกับความจริงนั้นมักสวนทางกันเพราะจากข้อมูลโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี พ.ศ 2561 กลับไม่ใช่อย่างนั้นครับ เพราะค่าเฉลี่ยการอ่านหนังสือของประชากรในช่วงอายุ 25-59 ปี สูงถึง 77 นาทีต่อวัน ( ซึ่งค่าเฉลี่ยน 77 นาทีต่อวันนั้นเกิน 8 บรรทัดต่อวันอย่างแน่นอน )
ข้อมูลอ้างอิงจากผลสำรวจได้บอกว่า กลุ่มช่วงวัย 25-59 ปี อ่านเพราะต้องการความบันเทิง 31.6% อ่านเพื่อให้รู้ข่าวสาร 46.7 % อ่านเพื่อเพิ่มความรู้ 43.2 % ดังนั้นปัญหาจริงๆ จึงอาจไม่ใช่การอ่านน้อย แต่เป็นการอ่านเยอะแต่ใช้เวลาการอ่านเยอะกับอะไรก็ไม่รู้เสียมากกว่า
เฉลี่ยการอ่าน 77 นาทีต่อวัน อาจหมดเวลาไปกับการอ่านข่าวลุงพล ป้าแต๋น ไป 20 นาที หมดเวลาไปกับการอ่านข่าวดาราทะเลาะกัน 20 นาที หมดเวลาไปกับดราม่าของเพื่อนใน Friend-list ไปอีก 20 นาที หมดเวลาไปกับการอ่านเรื่องดราม่าประจำวันไปอีก 10 นาที และอ่านเรื่องราวที่เป็นสาระแค่ 7 นาที
"ปริมาณไม่สำคัญเท่าคุณภาพ" ผมคิดว่าหลักการนี้ก็ใช้ได้กับการอ่านได้เช่นกัน การอ่านน้อยกว่า เลือกอ่านแค่เรื่องที่สนใจ เลือกอ่านเรื่องที่สามารถแก้ปัญหาให้กับเราได้ อ่านแล้วเอาไปใช้ประโยชน์ได้จริง ก็มีประโยชน์มากกว่าการอ่านเยอะแยะมากมายแต่ไม่รู้จะเอาไปประโยชน์ยังไง
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.tkpark.or.th/tha/articles_detail/407/%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3-2561